ชิปปิ้งจีน ข้อควรรู้ เพื่อการขนส่งที่คุ้มค่าและประหยัดต้นทุน

ชิปปิ้งจีน ข้อควรรู้ เพื่อการขนส่งที่คุ้มค่าและประหยัดต้นทุน

ชิปปิ้งจีน ข้อควรรู้ เพื่อการขนส่งที่คุ้มค่าและประหยัดต้นทุน สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ อาจเป็นเรื่องเสี่ยงที่คุณจะลองผิดลองถูกในการเริ่มต้นนำเข้าด้วยตนเอง ยกเว้นเสียแต่คุณจะได้ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นมืออาชีพในการนำเข้าสินค้าจากจีนโดยตรง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความมั่นใจ และหากได้ชิปปิ้งที่ดี ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนนำเข้า ทำให้เพิ่มกำไรได้มากขึ้น

ชิปปิ้งจีน

อย่างไรก็ตาม พื้นฐานของการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนนั้น หลักๆ คือ การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการนำเข้าให้น้อยที่สุด เพื่อทำกำไรได้มากที่สุด

ชิปปิ้งจีน นำเข้าสินค้าจากจีน ต้องรู้อะไรบ้าง ไปดูกัน

  1. สั่งซื้อหรือสั่งผลิตจากร้านค้าที่ราคาไม่แพง – เลือกร้านค้าที่คุณภาพดี และราคาเป็นธรรม เช่น theonecargo.com เว็บไซต์ขายส่งของจีน ยิ่งซื้อในปริมาณมาก ก็ยิ่งได้ราคาที่ถูกลง นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าที่รับผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของคุณเองด้วย จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างแบรนด์ และกำหนดคุณภาพด้านวัตถุดิบ รวมทั้งสามารถควบคุมงบประมาณตามที่มี (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 15 ขั้นตอนสำหรับมือใหม่หัดนำเข้า)
  2. สั่งซื้อสินค้าปริมาณมาก ช่วยประหยัดค่าขนส่งที่ถูกลง – ตัวเลขที่แตกต่างกัน มีผลต่อค่าขนส่งที่ต่างกันด้วย เช่น หากสั่งซื้อ 1,000 หน่วยเปรียบเทียบกับ 10,000 หน่วย ยิ่งตัวเลขการสั่งซื้อสินค้ามากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยประหยัดค่าขนส่งได้มากขึ้นเท่านั้น เช่น คุณมีค่าใช้จ่าย 500$ ต่อการขนส่ง 1,000 หน่วย หรือคิดเป็น 0.5$ / หน่วย แต่หากขนส่ง 10,000 หน่วย ค่าขนส่งจะอยู่อยู่ที่ 700$ หรือหน่วยละ 0.7$ จะเห็นได้ชัดว่า ราคาต่อหน่วยมักจะลดลงเมื่อคุณสั่งซื้อหรือนำเข้าสินค้าจากจีนในปริมาณที่มากขึ้น
  3. นำเข้าจากประเทศใกล้ๆ จะช่วยประหยัดค่าขนส่ง – แน่นอนว่า หากที่ตั้งของบริษัทอยู่ในประเทศไทย การนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน ไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น ย่อมมีค่าขนส่งที่ถูกกว่าการนำเข้าจากทางยุโรป เพราะฉะนั้น พยายามมองหาแหล่งนำเข้าใกล้ๆ เพื่อช่วยประหยัดค่าขนส่ง ระยะเวลาในการรอสินค้า ค่าใช้จ่ายของการใช้บริการ Freight Forwarder ตลอดจนค่าภาษีนำเข้า 
  4. สั่งซื้อสินค้าประเภทเดียวกันแต่หลายสี – การสั่งซื้อสินค้าประเภทเดียวกันเพื่อขนส่งมาในคราวเดียวนั้น เป็นไอเดียที่ดีมาก และเพื่อความคุ้มค่า อาจเลือกดีไซน์และสีที่คละกัน อย่างไรก็ตาม คุณสามารถขอคำแนะนำได้จากซัพพลายเออร์ในการคละสีที่แตกต่างกันให้ เพื่อประหยัดต้นทุนและยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกแฮปปี้ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลายอีกด้วย
  5. ติดตั้งระบบออนไลน์เพื่อช่วยในการดำเนินการ – ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์จำนวนมากที่ใช้งานผ่านระบบออนไลน์ ช่วยในการติดตามสินค้าคงคลัง และการสั่งซื้อแบบเรียลไทม์ ตลอดจนสามารถติดตามสถานการณ์ขนส่งสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ข้อดีคือเพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการขนส่ง ประหยัดเวลาในการเช็คสินค้า และค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
  6. ต่อรองเรื่องการชำระเงิน – แทนที่คุณจะชำระค่าสินค้าเต็มจำนวนสำหรับการขนส่ง ลองสอบถามกับซัพพลายเออร์ว่า สามารถชำระเงินตามรอบการจ่ายได้หรือไม่ เช่น 30 วัน 60 วัน 90 วันหรือ 180 วันสำหรับการชำระเงินเต็มจำนวนเมื่อสินค้ามาถึงมือ ผู้นำเข้าอาจชอบวิธีชำระเงินแบบนี้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ควรเจรจาต่อรองกับทางซัพพลายเออร์เพื่อเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย

cargo thailand 5เทคนิคไอเดียของการขายของออนไลน์
cargo thailand 5เทคนิคไอเดียของการขายของออนไลน์ ขายอะไรดี ขายยังไงให้ปัง ออเดอร์รัวๆ บอกเลยว่าไม่ยาก ในยุคที่หลายคนเริ่มมองหารายได้เสริม อาช...
อ่านเพิ่มเติม
dropship สินค้าจีน 20 อันดับ รายชื่อสินค้านำเข้ายอดนิยมที่คนไทยนำเข้า
dropship สินค้าจีน 20 อันดับ รายชื่อสินค้านำเข้ายอดนิยมที่คนไทยนำเข้า สินค้านำเข้า คือ สินค้าที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อขายในไทย โดยของ...
อ่านเพิ่มเติม
สินค้าจีน น่าสนใจ 8 สิ่งควรซื้อ และไม่ควรซื้อทางออนไลน์
สินค้าจีน น่าสนใจ 8 สิ่งควรซื้อ และไม่ควรซื้อทางออนไลน์ สั่งของจากจีน หนึ่งในรูปแบบการช็อปปิ้งของคนยุคปัจจุบัน ที่ช่วยลดข้อจำกัดเรื่องระยะทา...
อ่านเพิ่มเติม