ขนส่ง คาร์โก้ เรื่องน่ารู้ของการขนส่งทางเรือ ด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ ปัจจุบันการขนส่งสินค้าข้ามประเทศ ที่ได้รับความนิยมสูง มี 2 ประเภท คือทางรถและทางเรือ โดยเฉพาะการขนส่งทางเรือ มักได้รับความนิยมสำหรับผู้ประกอบการหรือชิปปิ้งจีนที่ต้องการขนส่งสินค้าในปริมาณมาก เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงและราคาถูก
Theonecargo ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า โดยการขนส่งทางเรือในยุคนี้ เป็นการขนส่งด้วยเรือ Container Ship หรือการขนส่งทางเรือด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งลักษณะของตู้ Container นั้นเป็นแบบ Curable Packing หรือเป็นตู้ที่ทำด้วยเหล็กหรืออลูมิเนียม มีขนาดมาตรฐานที่ 20 ฟุต และ 40 ฟุต
การขนส่งทางเรือ ถือเป็นบริการขนส่งที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการชิปปิ้ง เพราะมีต้นทุนการขนส่งต่ำ สามารถขนส่งสินค้าได้คราวละมากๆ ส่วนมากมักเป็นการขนส่งด้วยระบบของตู้คอนเทนเนอร์ (Container Box) สินค้าที่จะขนส่งจึงต้องมีการนำมาบรรจุที่ตู้ (Stuffing) และมีการขนย้ายตู้ขึ้นไว้บนเรือ Container Ship ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์โดยเฉพาะ
แล้วท่าเรือแบบไหน ที่สามารถรองรับการขนส่งระบบนี้ได้ ?
ท่าเรือดังกล่าวต้องมีการออกแบบที่เรียกว่า Terminal Design เพื่อให้เหมาะสม ทั้งด้านวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม จะต้องประกอบด้วย ท่าเทียบเรือ เขื่อนกั้นคลื่น รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ลักษณะของตู้คอนเทนเนอร์ (Container Box)
ตู้คอนเทนเนอร์อย่างที่เห็นโดยทั่วไป จะเป็นตู้เหล็กที่มีขนาดมาตรฐานกำกับเอาไว้ อาจผลิตจากเหล็กหรืออลูมิเนียมก็ได้ โครงสร้างภายนอกมีความแข็งแรง และสามารถวางซ้อนทับเรียงกันได้ไม่น้อยกว่า 10 ชั้น โดยมีตัวยึดหรือเรียกว่า Slot ที่ทำให้แต่ละตู้มีการยึดติดกัน
ส่วนใหญ่มีประตูอยู่ 2 บาน มีการระบุรายละเอียดของข้อมูลเอาไว้ เช่น หมายเลขตู้ (Container Number) น้ำหนักของสินค้าบรรจุสูงสุด ฯลฯ และเมื่อปิดประตูจะมีตัวล็อกตู้ สำหรับใช้คล้องซีล (Seal) แต่เดิมเป็นตะกั่ว แต่ในปัจจุบันเป็นพลาสติก มีหมายเลขกำกับเอาไว้ เพื่อใช้บ่งชี้สถานภาพ ซึ่งได้มีการพัฒนาไปถึง Electronic Seal สามารถเข้าไปตรวจสอบทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Tracking) ช่วยหาตำแหน่งของการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าและภายในตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีพื้นที่สำหรับใช้วาง และบรรจุสินค้า
ประเภทตู้สินค้ามีอะไรบ้าง ?
ลักษณะของเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ (Container Vessel)
เป็นเรือที่ถูกออกแบบมาสำหรับบรรทุกตู้สินค้าโดยเฉพาะ เรือสินค้าแต่ละลำจะมีที่ยกตู้ เรียกว่า Quay Cranes ประมาณ 1-4 ตัว โดย Crane แต่ละตัวนั้น จะทำการยกหรือลำเลียงตู้ที่ได้วางอยู่ตามความลึกของเรือ โดยจะวางเรียงกันเป็นแบบ Column หรือเป็นแถว
ปัจจุบันเรือบรรทุกมีขนาดเฉลี่ยประมาณ 2,700 TEU หากเรือที่มีขนาดใหญ่อยู่ในชั้นที่เรียกว่า SX Class หรือที่เรียกว่า Super Post Panamax จะมีความยาวเฉลี่ย 320×330 เมตร กินน้ำลึกอยู่ประมาณ 13-14 เมตร สามารถวางคอนเทนเนอร์ตามความกว้างได้ประมาณ 20-22 แถว และบรรทุกตู้สินค้าได้สูงสุดประมาณ 8,000TEU
ในอนาคตกำลังมีการต่อเรือขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก ในชั้นของ Malaccamax ช่วยให้ขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ได้ 18,000 TEU และด้วยขนาดเรือที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นนี้ จึงมีผลทำให้ต้นทุนโดยรวมลดลง เพราะลดต้นทุนแปรผัน ที่เรียกว่า Variable Cost ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน หรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับแรงงาน อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการบริหารจัดการ เพื่อที่จะหาสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการชิปปิ้ง